
ดูซีรีย์ The Glory (เดอะกลอรี่) (2022)
รีวิวซีรีส์ The Glory (เดอะกลอรี่) (2022-2023) – บทกวีแห่งความแค้นอันงดงามและเจ็บปวด
The Glory (เดอะกลอรี่) คือซีรีส์เกาหลีแนวแก้แค้น ดราม่า ระทึกขวัญ ที่ออกอากาศทาง Netflix โดยแบ่งเป็น 2 พาร์ท: พาร์ท 1 วันที่ 30 ธันวาคม 2022 และ พาร์ท 2 วันที่ 10 มีนาคม 2023 ซีรีส์เรื่องนี้สร้างปรากฏการณ์และได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากผู้ชมทั่วโลก การันตีด้วยรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย รวมถึง รางวัล Grand Prize (แดซัง) สาขาซีรีส์ยอดเยี่ยม จากงาน BaekSang Arts Awards ครั้งที่ 59
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานการเขียนบทของ คิมอึนซุก (Kim Eun-sook) นักเขียนมือทองที่เคยฝากผลงานสุดฮิตมาแล้วมากมาย เช่น Descendants of the Sun และ Goblin โดยได้ผู้กำกับ อันกิลโฮ (Ahn Gil-ho) มาร่วมสร้างสรรค์ และนำแสดงโดยนักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง ซงฮเยคโย (Song Hye-kyo), อีโดฮยอน (Lee Do-hyun), อิมจียอน (Lim Ji-yeon), ยอมฮเยรัน (Yeom Hye-ran), พัคซองฮุน (Park Sung-hoon) และ จองซองอิล (Jung Sung-il)
เรื่องย่อ:
เรื่องราวของ มุนดงอึน (Moon Dong-eun – ซงฮเยคโย) หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยบาดแผลทางกายและใจจากการถูกรังแกอย่างโหดร้ายในวัยเรียน โดยกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นผู้มีอิทธิพลและไร้สำนึก หลังจากต้องลาออกจากโรงเรียนและใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดและความแค้นที่ฝังลึกมานานหลายปี ดงอึนใช้เวลาทั้งหมดในชีวิตวางแผนการแก้แค้นอย่างรอบคอบและแยบยล เธอเรียนรู้และสะสมความรู้ เพื่อกลับมาเผชิญหน้ากับเหล่าผู้กระทำผิดที่ตอนนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
เป้าหมายหลักของการแก้แค้นของดงอึนคือ พัคยอนจิน (Park Yeon-jin – อิมจียอน) หัวหน้ากลุ่มที่รังแกเธอ และผู้ที่สร้างความเจ็บปวดให้เธอมากที่สุด ด้วยแผนการที่วางไว้อย่างละเอียด ดงอึนแทรกซึมเข้าไปในชีวิตของยอนจินและพรรคพวกของเธอทีละคน เธอไม่ได้ต้องการเพียงการทำลายล้าง แต่ต้องการให้ทุกคนจดจำความผิดที่พวกเขาก่อไว้ และต้องชดใช้ในแบบที่เจ็บปวดที่สุด
ระหว่างทางของการแก้แค้น ดงอึนได้รับความช่วยเหลือจาก จูยอจอง (Joo Yeo-jeong – อีโดฮยอน) แพทย์หนุ่มผู้ลึกลับที่เสนอตัวมาเป็น “เพชฌฆาต” ให้เธอ รวมถึง คังฮยอนนัม (Kang Hyeon-nam – ยอมฮเยรัน) แม่บ้านผู้มีปมของตัวเอง ดงอึนต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในอดีตอีกครั้ง และใช้ทุกกลยุทธ์ที่มีเพื่อนำพาเหล่าผู้กระทำผิดลงสู่ขุมนรกที่พวกเขาเคยสร้างไว้ให้เธอ

สิ่งที่น่าสนใจใน The Glory:
บทละครที่เฉียบคมและทรงพลัง: คิมอึนซุกได้สร้างสรรค์บทละครที่ลึกซึ้งและมีชั้นเชิง การดำเนินเรื่องที่ค่อยๆ เปิดเผยปมต่างๆ อย่างชาญฉลาด ทำให้ผู้ชมถูกตรึงอยู่กับหน้าจอตั้งแต่ต้นจนจบ บทสนทนาคมคายและเต็มไปด้วยความหมาย โดยเฉพาะคำพูดของดงอึนที่เจ็บปวดและเจ็บแสบ
การแสดงอันไร้ที่ติของทีมนักแสดง:
ซงฮเยคโย ในบทมุนดงอึน ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญและน่าจดจำที่สุดของเธอ เธอถ่ายทอดความเจ็บปวด ความโกรธแค้น ความมุ่งมั่น และความว่างเปล่าภายในจิตใจได้อย่างสมจริงและน่าทึ่ง
อิมจียอน ในบทพัคยอนจิน ก็สามารถแสดงบทบาทตัวร้ายที่ร้ายกาจ ไร้สำนึก และน่าชิงชังได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม
นักแสดงคนอื่นๆ ทั้ง อีโดฮยอน, ยอมฮเยรัน, พัคซองฮุน และ จองซองอิล รวมถึงนักแสดงวัยรุ่นในพาร์ทแรก ก็แสดงบทบาทของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมและสร้างมิติให้กับตัวละคร
การนำเสนอประเด็นการบูลลี่ในโรงเรียน: ซีรีส์ตีแผ่ความโหดร้ายของการบูลลี่ในโรงเรียนได้อย่างตรงไปตรงมาและน่าสะเทือนใจ ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงผลกระทบระยะยาวที่เหยื่อต้องเผชิญ และความยากลำบากในการเอาชีวิตรอดจากบาดแผลนั้น
งานกำกับและองค์ประกอบศิลป์ที่ยอดเยี่ยม: การกำกับของอันกิลโฮช่วยเสริมให้เรื่องราวมีความน่าติดตาม ทั้งการจัดแสง สี และมุมกล้องที่สร้างบรรยากาศมืดหม่นและตึงเครียดได้อย่างเหมาะสม
ความสมบูรณ์แบบของแผนการแก้แค้น: แผนการแก้แค้นของดงอึนถูกวางไว้อย่างประณีตและค่อยๆ คลี่คลายออกทีละขั้น ทำให้ผู้ชมได้ลุ้นและติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ข้อสังเกต:
ความรุนแรงของเนื้อหา: ซีรีส์มีการนำเสนอฉากความรุนแรงและการบูลลี่ที่ค่อนข้างดิบและตรงไปตรงมา ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกไม่สบายใจหรือกระตุ้นความรู้สึกในแง่ลบได้
การเดินเรื่องในพาร์ทแรกอาจจะช้าในบางจุด: สำหรับผู้ชมที่ชอบความรวดเร็ว พาร์ทแรกอาจจะรู้สึกว่าเป็นการปูเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสร้างบริบทให้กับการแก้แค้นในพาร์ทสอง
สรุป:
The Glory (เดอะกลอรี่) ไม่ใช่แค่ซีรีส์แก้แค้นธรรมดา แต่เป็นบทกวีแห่งความเจ็บปวด ความมุ่งมั่น และการไถ่ถอน ซีรีส์เรื่องนี้มอบประสบการณ์การรับชมที่เข้มข้น ดึงดูด และทำให้ผู้ชมต้องนั่งไม่ติดเก้าอี้ด้วยเรื่องราวที่ทรงพลัง การแสดงที่ไร้ที่ติ และงานสร้างที่ประณีต หากคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ท้าทายความคิด สะท้อนสังคม และมอบความพึงพอใจในการแก้แค้นที่สมบูรณ์แบบ The Glory คือซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
คะแนน: 9.5/10
คุณคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้สามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดของเหยื่อการบูลลี่ได้ดีที่สุดแล้วหรือยังครับ?